





Blue Phoenix
รายละเอียดสินค้า
ใช้โครงสร้างการผลิตของสินค้าที่ใช้นาโนเซรามิคชั้นสูง โดยนำสาร ATO (Antimony Tin Oxide) ผสมรวมกับแร่ Tungsten เคลือบไปบนชั้นฟิล์มเพื่อให้เนื้อฟิล์มเซรามิค ที่มีคุณสมบัติในการตัดคลื่นรังสีอินฟราเรดในช่วงกว้างตั้งแต่ 780-2500 นาโนเมตร ได้มากกว่า 95% และใช้แผ่นฟิล์ม (P.E.T.) เกรดพรีเมียมจึงทำให้เนื้อฟิล์มมีความใส-เคลียร์เป็นพิเศษ โดยให้มุมมองด้านในสู่ด้านนอกที่ชัดเจน โดยไม่ขึ้นหมอกขาว และไม่เป็นสนิมที่เนื้อฟิล์มรายละเอียด
รังสีอินฟราเรดคืออะไร ?
รังสีอินฟราเรด หรือรังสีความร้อน เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่แผ่มาจากดวงอาทิตย์ รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์นั้นมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดนั้นมีความยาวคลื่นต่างกัน เช่นแสงที่ตามองเห็น (Visible light) มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 400-700 นาโนเมตร, รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet radion) มีความยาวคลื่น 1-400 นาโนเมตร, รังสีแกมมา (Gamma ray) มีความยาวคลื่นน้อยกว่า 0.01 นาโนเมตร, รังสีเอกซ์ (X-ray) ความยาวคลื่น 0.01-1 นาโนเมตร เป็นต้น สำหรับรังสีอินฟราเรดมีความยาวคลื่น 700 นาโนเมตร -1 มิลลิเมตร เป็นคลื่นที่มีความถี่ ถัดจากความถี่ของสีแดงลงมา มนุษย์จึงไม่สามารถมองเห็นรังสีอินฟราเรด แต่ก็รู้สึกถึงความร้อนได้โดยดวงอาทิตย์จะมีการแผ่รังสีอินฟราเรดในช่วงตั้งแต่ 780 - 2500 นาโนเมตรรังสีอินฟราเรดส่งผลเสียอะไรต่อผิวของเราบ้าง ?
โดยทั่วไปเราจะเข้าใจกันว่า เฉพาะรังสียูวีจะเป็นรังสีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่ความเป็นจริงแล้ว รังสีอินฟราเรดสามารถทะลุชั้นผิวหนังเราเข้าไปได้ลึกกว่ารังสียูวีมาก ซึ่งการทะลุทะลวงเข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนัง รังสีอินฟราเรดจะไปทำลายคอลลาเจน (Collagen) และอิลาสติน (Elastin) ทำให้ผิวหนังเกิดปัญหา คือ- ปัญหาฝ้าแดด, ผิวหมองคล้ำ, สีผิวไม่สม่ำเสมอ, การสร้างเม็ดสีผิดปกติ
- ปัญหาริ้วรอย, เหี่ยวย่น, แก่ก่อนวัย
- ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น
- มะเร็งผิวหนัง
รังสีจากแสงแดดทำร้ายอะไรเราได้บ้าง ?
- UVA เจาะเข้าไปได้ถึงชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดริ้วรอยถาวร
- UVB ทำลายผิวหนังชั้นนอกทำให้เกิดอาการแดง แสบ และผิวหมองคล้ำ
- UVC ถูกกรองที่ชั้นโอโซน (แต่ในปัจจุบันชั้นโอโซนถูกทำลายไปมาก)
- IR รังสีอินฟราเรด เข้าสู่เซลล์ผิวในระดับเซลล์ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย (ผิวเหี่ยว)
ทำไมฟิล์มรุ่น Blue Phoenix จึงลดความร้อนได้ดี โดยไม่รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนฟิล์มเซรามิคโดยทั่วไป
โดยปกติทั่วไปการลดรังสีอินฟราเรดของฟิล์มจะสามารถลด และระบุค่าการลดรังสีอินฟราเรดสูงสุดแค่จุดใดจุดหนึ่ง จากสารที่ทำการผลิตเท่านั้น เช่น สารบางตัวจะลดรังสีอินฟราเรดได้ 99% ที่ความยาวคลื่น 900 นาโนเมตร แต่อาจจะลดรังสีอินฟราเรดได้แค่ 80% ที่ความยาวคลื่น 1400 นาโนเมตร และจะลดลงเรื่อยๆ ตามความยาวของคลื่น เป็นต้น จึงทำให้รู้สึกร้อนเป็นช่วงๆ และเนื่องจากอุปกรณ์ในการตรวจวัด มีราคาค่อนข้างจะสูงมาก ส่วนมากจะใช้อุปกรณ์วัดที่เป็นแบบพกพา ซึ่งสามารถตรวจวัดค่ารังสีอินฟราเรด ณ จุดใดจุดหนึ่ง และส่วนมากจะระบุค่าที่สูงที่สุดเท่านั้นรหัสสินค้า | แสงส่องผ่าน (VLT) | สะท้อนแสง (VLR) | ป้องกันรังสียูวี (UV) | ลดรังสีอินฟราเรด (IR) | ค่าการลดความร้อนรวม (TSER) | ค่าสัมประสิทธิ์การบังแดด (SC) | ค่าสัมประสิทธิ์การส่งผ่านความร้อนจากรังสีอาทิตย์ (SHGC) | การลดความร้อนรวมคำนวณเฉพาะในช่วงแสง | ตัวอย่างสีฟิล์ม | |
900-1000 nm | 780-2500 nm | |||||||||
BPN 9550 | 59.8% | 8.1% | 99% | 97.9% | 96.6% | 51.1% | 0.57 | 0.49 | 71.89 |
![]() |
BPN 9535 | 33.4% | 5.5% | 99% | 95.7% | 95.5% | 57.1% | 0.50 | 0.43 | 82.89 |
![]() |
BPN 9515 | 15.9% | 4.8% | 99% | 96.3% | 95.7% | 62.2% | 0.44 | 0.38 | 90.70 |
![]() |
BPN 9505 | 6.4% | 4.1% | 99% | 97.5% | 96.5% | 65.2% | 0.40 | 0.35 | 95.30 |
![]() |